6 เสาหลักสู่ลมหายใจไร้ควัน: เลี่ยงสารร้าย เลิกบุหรี่ ชีวียืนยาว

คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
-
17 ก.ย. 2568
-
#

                การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และการเสียชีวิต ดังนั้น ‘การหลีกเลี่ยงสารเสี่ยง (Avoidance of Risky Substances) จึงถือเป็นหนึ่งในเสาหลักข้อที่ 4 ของเวชศาสตร์วิถีชีวิต ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

                บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (Premature death) โดยมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ประมาณ 5–7 ล้านคนต่อปี การสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น

  • โรคระบบทางเดินหายใจ - ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเพิ่มมากถึง 7.6 เท่าในผู้หญิง และ 6.3 เท่าในผู้ชาย ส่งผลให้อายุขัยเฉลี่ยลดลงประมาณ 20 ปีในผู้หญิง และ 18 ปีในผู้ชาย
  • โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด - ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดในผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 3.1 เท่าในผู้หญิง และ 2.9 เท่าในผู้ชาย โดยพบว่า ผู้หญิงสูญเสียอายุขัยเฉลี่ย 10 ปี และผู้ชายสูญเสียอายุขัยเฉลี่ย 14 ปี

โรคมะเร็ง การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยง 2.8 เท่าในผู้หญิง และ 3.1 เท่าในผู้ชาย โดยทั้งสองเพศสูญเสียอายุขัยเฉลี่ยเท่ากันที่ 12 ปี

                ฉะนั้น การเลิกบุหรี่ยิ่งทำได้เร็วเท่าไร ยิ่งดีต่อสุขภาพมากเท่านั้น และมีโอกาสฟื้นฟูความเสียหายจากบุหรี่ได้มากขึ้น จากการศึกษาพบว่า การเลิกบุหรี่ก่อนอายุ 40 ปี ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องได้มากถึง 90% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ โดยผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ในช่วงอายุน้อยกว่า 40 ปี จะมีอายุขัยเฉลี่ยยืนยาวขึ้น 12 ปี แต่หากเลิกสูบบุหรี่ในช่วงอายุ 40-49 ปี จะได้เพิ่มอายุขัยขึ้นได้ 6 ปี และหากเลิกบุหรี่ในช่วงอายุ 50-59 ปี จะได้เพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ปี

จะเห็นว่า ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่จะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มานานเกิน 10 ปี สามารถลดการสูญเสียอายุขัยลงได้ 8-15 ปี ขึ้นอยู่กับเพศและช่วงอายุในขณะเลิกสูบ จนกล่าวได้ว่า ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มานานอาจใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยก็ว่าได้

 

แนวทางการเลิกบุหรี่

การเลิกบุหรี่สามารถทำได้โดยอาศัย 3 แนวทางหลัก คือ

  1. การบำบัดด้วยยา (Pharmacotherapy)

การใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบรรเทาอาการถอนนิโคติน ช่วยลดความอยากบุหรี่ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ ตัวอย่างเช่น

  • นิโคตินทดแทน (Nicotine Replacement Therapy: NRT) - ช่วยให้ควบคุมปริมาณนิโคตินตามที่ต้องการได้ เพื่อค่อย ๆ ลดปริมาณนิโคตินลง ผลิตภัณฑ์นี้มี 5 รูปแบบที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้แก่ แผ่นแปะนิโคติน เม็ดอม หมากฝรั่ง ยาสูดพ่น และสเปรย์จมูก หรือ
  • ยาที่ออกฤทธิ์กับตัวรับนิโคตินในสมอง เช่น บูโพรพิออน (Bupropion) วาเรนิคลีน (Varenicline) ยาทั้งสองชนิดช่วยให้การถอนนิโคตินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้อง ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงหรือทำปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ได้

  1. การบำบัดทางพฤติกรรม (Behavioral Therapy)

วิธีนี้เป็นการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมการสูบบุหรี่โดยไม่ใช้ยา เช่น การปรับพฤติกรรมทางความคิด (Cognitive Behavioral Therapy: CBT) การสร้างแรงจูงใจ (Motivational Interviewing) หรือวิธีการอื่น ๆ เพื่อเสริมแรงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

กลยุทธ์เพื่อปรับพฤติกรรมเหล่านี้ มักไม่ได้ถูกใช้เพียงวิธีการใดวิธีการหนึ่ง แต่ประยุกต์ใช้ร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่สามารถควบคุมตัวเอง หยุดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้ พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวคิด ความเชื่อ หรือทัศนคติ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเลิกบุหรี่ ตลอดจนช่วยวางโครงสร้างให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การตั้งเป้าหมายและกำหนดวันเลิกสูบบุหรี่อย่างชัดเจน การติดตามตนเองผ่านบันทึกเวลาหรือสถานที่ที่สูบบุหรี่ และการเรียนรู้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ที่จะนำไปใช้ในการดูแลตัวเองหลังจากเลิกบุหรี่ได้และป้องกันไม่ให้กลับมาสูบบุหรี่อีกครั้ง

  1. การบำบัดแบบผสมผสาน (Combination Therapy)

การบำบัดแบบผสมผสานเป็นแนวทางที่นำ การบำบัดทางพฤติกรรม และ การบำบัดด้วยยา มาใช้ร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำสั้น ๆ จากแพทย์หรือพยาบาลควบคู่ไปกับการใช้ยา ซึ่งแนวทางนี้เป็นสิ่งที่ผู้ที่ตั้งใจเลิกบุหรี่มักมองหามากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยยังขาดแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง แม้ว่าพวกเขาจะแสดงความต้องการที่จะเลิกบุหรี่ การนำแนวทางแบบผสมผสานมาใช้ร่วมกัน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการในการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จยิ่งขึ้น

ไม่มีแนวทางการเลิกบุหรี่ใดที่เป็นสูตรสำเร็จ ที่ใช้ได้ผลกับทุกคน ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัฒนธรรมหรือช่วงอายุ กุญแจสู่ความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ จึงเป็นการปรับกลุยทธ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ ปัจจุบันมีหลายช่องทางที่พร้อมยินดีให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 คลินิกฟ้าใส คลินิกที่ช่วยในการเลิกบุหรี่ ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีร้านยาอาสาพาเลิกบุหรี่ ในโครงการ สปสช. หรือคลินิกออนไลน์ที่ให้บริการผ่านระบบ Tele-medicine สามารถติดตามการบำบัดผ่านช่องทางออนไลน์

 

การเลิกบุหรี่ คือ ของขวัญที่ดีที่สุดที่มอบให้กับตัวเองและคนที่คุณรักเพื่อให้ทุกคนหายใจได้เต็มปอด ปราศจากควันบุหรี่ เพื่อร่างกายที่มีสุขภาพดี และชีวิตที่ยืนยาว เริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อร่างกาย การตัดสินใจเลิกบุหรี่ในครั้งนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในทุกวัน

 

โดย ทีมแพทย์ BDMS Wellness Clinic Institute

และสมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษาโรคอ้วน กรุุงเทพ (BARSO)

 

รายการอ้างอิง

  1. Cho ER, Brill IK, Gram IT, Brown PE, Jha P. Smoking cessation and short-and longer-term mortality. NEJM evidence. 2024 Feb 27;3(3):EVIDoa2300272.
  2. Onwuzo CN, Olukorode J, Sange W, Orimoloye DA, Udojike C, Omoragbon L, et al. A Review of smoking cessation interventions: efficacy, strategies for implementation, and future directions. Cureus. 2024 Jan 11;16(1).
  3. American College of Lifestyle Medicine. Avoidance of Risky Substances [Internet]. 2023 [cited 2025 Jun 15]. Available from: https://lifestylemedicine.org/wp-content/uploads/2024/08/LM-Avoid-Risk-23.pdf
Share:

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved