พันธุกรรมและอีพิเจเนติกส์

คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
-
30 ก.ค. 2568
-
#

“พันธุกรรมและอีพิเจเนติกส์: ไขรหัสลับเบื้องหลังการเกิดมะเร็ง”

โรคมะเร็ง เป็นโรคเรื้อรังที่มีความซับซ้อน โดยมีปัจจัยสำคัญทั้งจากพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเกิดและพัฒนาของโรค การเปลี่ยนแปลงของยีนผ่านการกลายพันธุ์และกระบวนการเหนือพันธุกรรม (Epigenetics) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ ความเข้าใจในกลไกเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เราตรวจพบมะเร็งได้เร็วขึ้น แต่ยังนำไปสู่แนวทางการป้องกันและรักษาแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสัมพันธ์ระหว่างพันธุกรรมและมะเร็ง

โดยปกติ ร่างกายมียีนที่มีบทบาทสำคัญในการเกิดโรคมะเร็ง ได้แก่

  1. ยีนก่อมะเร็ง (Oncogenes) - ทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์หรือถูกกระตุ้นมากเกินไป จะทำให้เซลล์เติบโตได้อย่างไร้การควบคุม เช่น MYC, RAS, HER2

  2. ยีนต้านมะเร็ง (Tumor suppressor genes) – ทำหน้าที่ควบคุมแบ่งตัวของเซลล์ และทำลายเซลล์ (Apoptosis) แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์หรือถูกปิดการทำงาน จะทำให้เซลล์แบ่งตัวได้เรื่อย ๆ และไม่มีการทำลายเซลล์ที่หมดอายุ เช่น TP53 (p53), RB1, BRCA1/BRCA2

  3. ยีนซ่อมแซม DNA (DNA repair genes) - ทำหน้าที่ซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์ ทำให้กระบวนการนี้ทำงานไม่เสถียร และเกิดมะเร็งได้ เช่น MLH1, MSH2, MSH6, PMS2

จากที่กล่าวไปข้างต้น การเกิดมะเร็งมักมีพื้นฐานจากกลไกควบคุมการแบ่งตัว และการตายของเซลล์ที่ปกตินั้นถูกรบกวน จากการกลายพันธุ์ของรหัสพันธุกรรมหรือยีน ทำให้เจริญเติบโตผิดปกติและมีการแบ่งเซลล์อย่างไร้การควบคุม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของมะเร็ง โดยสามารถจำแนกการกลายพันธุ์ออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่

  1. การกลายพันธุ์ของเซลล์ร่างกาย (Somatic mutation) - เซลล์ที่ไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์และไม่สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นถัดไปได้ แต่จะสะสมจากสภาพแวดล้อมและการสัมผัสสารก่อมะเร็งของแต่ละคน เช่น รังสี UV หรือการสูบบุหรี่/การได้รับควันบุหรี่ เป็นต้น 

  2. การกลายพันธุ์ของเซลล์สืบพันธุ์ (Germline mutation) – เป็นการถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูก สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่างโรคมะเร็งที่เกิดจากพันธุกรรม เช่น การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2 ที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ที่เพิ่มสูงขึ้น หรือโรคลินช์ (Lynch Syndrome) ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของยีน MLH1 MSH2 MSH6 PMS2 หรือ EPCAM ในการซ่อมแซม DNA ที่ผิดพลาดไป โดยพบว่า มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น

บทบาทของอีพิเจเนติกส์ต่อมะเร็ง

นอกเหนือจากพันธุกรรมแล้ว พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคลก็มีผลต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน กระบวนการเหนือพันธุกรรม หรือ อีพิเจเนติกส์ เป็นกระบวนการที่พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของยีนได้ ซึ่งแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่เป็นการเปลี่ยนแปลงถาวร แต่เป็นกระบวนการที่สามารถย้อนกลับได้ โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนลำดับของ DNA โดยตรง แต่สามารถเปลี่ยนวิธีที่ร่างกายอ่านลำดับ DNA ได้ เปรียบเสมือนสวิตซ์ที่สามารถ ‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’ การแสดงออกของยีนได้ กล่าวคือ สามารถควบคุมยีนให้สร้างหรือไม่สร้างโปรตีนในเซลล์เมื่อใดและเวลาใดก็ได้

ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิต สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอีพิเจเนติกส์ ได้หลากหลายกระบวนการ แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือ DNA methylation ซึ่งเป็นกระบวนการที่เติมหมู่เมทิลเข้าไปใน DNA และกำจัดหมู่เมทิลออกจาก DNA ผ่านกระบวนการ Demethylation เพื่อเปิดหรือปิดการทำงานของยีน

ตัวอย่างเช่น การสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่ นอกจากจะทำให้ยีนต้านมะเร็งและยีนก่อมะเร็งกลายพันธุ์แล้ว ยังทำให้การ DNA methylation และกระบวนการอื่น ๆ ของอีพิเจเนติกส์ นั้นผิดปกติไป ทั้งยับยั้งการทำงานของยีนต้านมะเร็ง เพิ่มการทำงานของยีนก่อมะเร็ง จนเกิดเป็นมะเร็งปอดได้ในที่สุด ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการแสดงออกของยีนเป็นอย่างมาก

พลิกวิกฤติด้วยการปิดสวิตซ์มะเร็ง

แม้ว่าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงต้นทุนที่มีตั้งแต่กำเนิดอย่างพันธุกรรมของเราได้ แต่เราสามารถหาแนวทางป้องกันและเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราสามารถจัดการได้ ดังนี้

  1. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (Lifestyle modification) - การส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การหลีกเลี่ยงสารอันตราย (บุหรี่ แอลกอฮอล์ มลพิษ ฝุ่น PM2.5) และการจัดการความเครียด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลดผลจากการเปลี่ยนแปลงทางอีพิเจเนติกส์ ที่มีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง

  2. ตรวจตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (Early detection) – ทราบประวัติสุขภาพของบุคคลในครอบครัว ตรวจคัดกรองมะเร็ง และการตรวจสุขภาพประจำปี

โรคมะเร็งเกิดได้จากทั้งพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยการกลายพันธุ์ของยีนและกระบวนการเหนือพันธุกรรมส่งผลให้เซลล์เจริญเติบโตผิดปกติและไร้การควบคุม การเข้าใจกลไกเหล่านี้ช่วยให้สามารถตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น และมีแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

แม้เราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งผ่านการปรับพฤติกรรมการดำรงชีวิต และการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมและอีพิเจเนติกส์ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมและป้องกันโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ

รายการอ้างอิง

  1. American Cancer Society. How does cancer start? Genes and Cancer [Internet]. Atlanta, GA: The American Cancer Society; 2022 Aug 31 [cited 2025 Mar 10]. Available from: https://www.cancer.org/cancer/understanding-cancer/genes-and-cancer.html
  2. Dominguez-Valentin M, Sampson JR, Seppälä TT, Ten Broeke SW, Plazzer JP, Nakken S, et al. Cancer risks by gene, age, and gender in 6350 carriers of pathogenic mismatch repair variants: findings from the Prospective Lynch Syndrome Database. Genet Med. 2020;22(1):15-25.
  3. Centers for Disease Control and Prevention. Epigenetics, Health, and Disease [Internet]. Atlanta, GA: U.S. Centers for Disease Control and Prevention; 2025 Jan 31 [cited 2025 Mar 10]. Available from: https://www.cdc.gov/genomics-and-health/epigenetics/index.html#cdc_health_safety_special_topic_populations-epigenetics-and-diseases
  4. Seiler CL, Song JUM, Kotandeniya D, Chen J, Kono TJY, Han Q, et al. Inhalation exposure to cigarette smoke and inflammatory agents induces epigenetic changes in the lung. Sci Rep. 2020;10(1):11290.
Share:

Related Articles

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved