

ในปัจจุบันไวรัส Covid-19 มีการกลายพันธุ์ทำให้มีการติดเชื้อที่ง่ายขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ คือ การใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ การเว้นระยะห่าง และการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราให้มีความแข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย เข้ามาในร่างกายของเรา เมื่อไรที่ร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงจะสังเกตเห็นได้ว่า เราจะป่วยง่ายขึ้น ท้องเสีย หรือมีการติดเชื้อทางผิวหนัง
แพทย์หญิงสร้อยเพชร ประเทืองเศรษฐ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ แพทย์หญิงจิรา ถาวรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการรอยัลไลฟ์ กรุงเทพ จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมเคล็ดลับในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
วิธีเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภูมิคุ้มกันร่างกาย
1. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เช่น กลุ่มโปรตีนที่ไม่ติดมัน กลุ่มผักและผลไม้หลากสี กลุ่มถั่ว และธัญพืช จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ในการไปช่วยระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้แข็งแรงขึ้น นอกจากนั้นควรเลือกรับประทานอาหารที่ สด ใหม่ ปรุงสุก และสะอาด และควรหลีกเลี่ยงอาหารดิบ หมัก หรือดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรค
นอกจากนั้น อาหารบางกลุ่มอาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และทำให้เกิดการลดลงของระบบภูมิคุ้มกันได้ เช่น
- ของหวานจัด เช่น น้ำอัดลม ขนม หรือเบเกอรี่ต่าง ๆ
- ของมัน ของทอด หรือขนมถุง
การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง จะช่วยให้เราสามารถคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้ เมื่อไรที่เรามีน้ำหนักเกิน หรืออยู่ในภาวะอ้วน ภาวะภูมิคุ้มกันของเราก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
2. การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือออกกำลังกายแบบเพิ่มความยืดหยุ่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เมื่อเรามีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ หรือแอโรบิค ควรทำต่อเนื่องประมาณ 30-60 นาที ต่อวัน แต่หากเราออกกำลังกายหนักเกินไป ก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงได้ เช่นกัน
3. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่มครึ่ง และมีระยะเวลาในการนอน 7-9 ชั่วโมง เพราะในช่วงเวลาที่เราหลับลึก ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ซึ่งมีหน้าที่ช่วยซ่อมแซมร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นระบบเม็ดเลือดขาวของเรา โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวที่ชื่อว่า เม็ดเลือดขาวเพชรฆาต (NK Cell) เพื่อไปต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
4. จัดการกับความเครียด โดยการสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ โดยนับ 1-4 และหายใจออกช้า ๆ โดยนับ 1-4 หรือนอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และการนวดกดจุดในบริเวณที่มีกล้ามเนื้อตึง ก็เป็นวิธีที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เช่นกัน
เทคนิคผ่อนคลายความเครียดด้านจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น การคิดแง่บวก พูดคุยกับครอบครัว ทำกิจวัตรประจำวันร่วมกัน การฟังเพลง และการฝึกนั่งสมาธิ ก็จะช่วยจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น
5. สารอาหารรอง (Micronutrients) วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามิน D วิตามิน C หรือ สังกะสี (Zinc) หากบางท่านไม่สามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอในชีวิตประจำวัน สามารถรับประทานอาหารเสริม เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกายได้ เช่น
- วิตามิน C วันละ 500-2000 มิลลิกรัม สามารถช่วยเรื่องการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว จัดการไวรัสได้ดี พบได้ในผลไม้ เช่น ฝรั่ง กีวี่ ผลไม้ตระกูลเบอรรี่ และมะขามป้อม หรือกลุ่มผักใบเขียวจัด เช่น บรอกโคลี คะน้า หรือปวยเล้ง
- วิตามิน D ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันลดการอักเสบของร่างกาย เราสามารถรับวิตามิน D ได้ด้วยการรับแดดอ่อน ๆ ใส่เสื้อผ้าบาง ๆ ไม่ต้องทากันแดดบริเวณลำตัว วันละ 15-20 นาที ก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราได้
- สังกะสี (Zinc) พบได้ในสารอาหารกลุ่มประเภทหอยต่าง ๆ เช่น หอยนางรม ถั่ว เมล็ดทานตะวัน และธัญพืช หากคิดว่าร่างกายของเรารับได้ไม่เพียงพอ สามารถเสริมได้ในขนาด 15-45 มิลลิกรัมต่อวัน
ยังมีอีกหลายชนิดที่ช่วยสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเราได้ เช่น กลุ่มกรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบของร่างกายได้ หรือกลุ่มโพรไบโอติก (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดี ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เช่นกัน
#BDMSWellnessClinic #สุขภาพที่ดีเริ่มที่การป้องกัน #BDMSWellnessClub #PreventiveMedicine